Admin Mar 27 2022
เรื่องย่อซีรีส์ The Rebel Princessซ่างหยาง ลำนำหงส์ลิขิตบัลลังก์ (2021) ดัดแปลงจากนิยายชื่อดังของ ตี้หวางเย่ เป็นเรื่องราวขององค์หญิงซ่างหยาง หวังเซวียน (แสดงโดยจางจื่ออี้) หรืออาอู่ บุตรสาวในตระกูลหวัง เป็นสาวสวยฉลาด หลานของฮ่องเต้ที่มีศักดิ์เป็นลุง รักอยู่กับลูกชายคนที่สามของลุง หรือองค์ชายสาม จี่ตัน (แสดงโดยยางโยวหนิง) แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนตระกูลเซียะ ตระกูลที่คอยคานอำนาจของตระกูลหวังอยู่เสมอมา พ่อของหวังเซวียน (แสดงโดยอวี๋เหอเหว่ย) ซึ่งเป็นเสนาบดีจึงไม่อาจยินยอมได้ เพื่อที่จะรักษาอำนาจของตระกูล พ่อจึงบังคับให้หวังเซวียนแต่งงานกับ เซียวฉี (แสดงโดย โจวอี้เหวย) แม่ทัพแห่งเมืองเหนือ ผู้ที่ไม่ได้เกิดมาจากชนชั้นขุนนาง เป็นเพียงสามัญชนผู้ต่ำต้อยคนหนึ่ง แต่มีความสามารถในการสู้รบ จนได้เป็นแม่ทัพที่ได้รับการเลื่อนชั้นตำแหน่งสูงจากฮ่องเต้ เพราะการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรัก ทำให้ในวันส่งตัวทั้งคู่ไม่ได้เข้าหอด้วยกัน และต่อมาไม่นาน หวังเซวียน ยังถูกลักพาตัวจากศัตรูที่ต้องการแก้แค้นเซียวฉี แต่เพราะการช่วยเหลือของเซียวฉี ทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น จนเกิดเป็นความรักที่ลึกซึ้งหยั่งรากลึกลงไปในหัวใจของทั้งคู่ เรื่องราวความรักของทั้งสองจะลงเอยอย่างไร หงส์จะลิขิตบัลลังก์ได้หรือไม่ ต้องไปติดตามกันต่อทาง TrueID นะคะ ที่สำคัญมีพากย์ไทยด้วย ไม่ต้องอ่านซับให้ปวดตา แต่ตอนนี้เราไปดู 5 เหตุที่ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้กันก่อนค่ะ
1. เรื่องราวชีวิตขององค์หญิงจากสูงสุดสู่จุดตกต่ำและกลับมาผงาดได้อีกครั้ง สนุก เข้มข้น
ซีรีส์ถ่ายทอดเรื่องราวขององค์หญิงซ่างหยาง ตั้งแต่วัยเด็ก ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมจากไทเฮาที่มีศักดิ์เป็นคุณยาย เป็นที่รักใคร่ของทุกคน มีทุกสิ่งอย่าง จนเมื่อโตขึ้นได้รับรู้ถึงปัญหาการเมืองต่าง ๆ ที่ตนเองต้องเป็นคนกลาง เริ่มจากถูกบังคับให้แต่งงานกับชายที่ไม่ได้รัก จากนั้นถูกลักพาตัวไปอยู่ในดินแดนทุรกันดาร และเมื่อได้กลับมาเมืองหลวงกลับต้องพบเจอกับการทรยศหักหลัง ครอบครัวแตกแยก การผลัดเปลี่ยนราชบัลลังก์ การสูญเสียคนที่รัก สารพัดปัญหาที่ถาโถมเข้ามา ชีวิตเปลี่ยนจากสุขสบายเป็นรันทดขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในความลำบากนั้นกลับมีความรักจากชายที่เป็นสามี แม่ทัพเซียวฉีเป็นแรงสนับสนุน ถึงแม้จะไม่ได้รักกันในตอนแรก แต่ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือความอยู่รอดและการปกป้องราชบัลลังก์ ทั้งคู่จึงจับมือร่วมกันผจญอุปสรรคจนกลายเป็นความรักที่มั่นคง ดูแล้วก็ร่วมลุ้นกับทุกปัญหาของทั้งคู่ ชอบคาแรกเตอร์ของทั้งหวังเซวียนและเซียวฉีที่เป็นคนเก่ง เป็นคนฉลาด และมีทีมบริวารที่ดี เป็นซีรีส์แนวการเมืองที่ไม่ได้รบราฆ่าฟันกันอย่างเดียว แต่ยังชิงไหวชิงพริบ ดูแล้วสนุก ประทับใจกับการผูกปมเนื้อเรื่อง เข้มข้น จนอยากดูให้จบไว ๆ ถึงขนาดมี 68 ตอนก็ดูยันจบไม่เทนะ จบลงตัวถูกใจไม่เสียเวลาดูด้วยล่ะ
2. นักแสดงนำคุณภาพ ระดับดาราฮอล์ลีวู้ด
เรื่องนี้ได้นักแสดงอินเตอร์อย่าง จางจื่ออี้ รับบทเป็นหวังเซวียน องค์หญิงซ่างหยาง สาวสวยมีเสน่ห์เป็นที่ต้องตาของหนุ่ม ๆ ทั้งจากองค์รัชทายาทและองค์ชายสาม แต่สุดท้ายลงเอยกับแม่ทัพหนุ่ม เซียวฉี นอกจากบทบาทโรแมนซ์แล้วยังต้องแสดงความกล้าหาญ ความฉลาดเฉลียวในการรับมือกับปัญหาต่าง ๆ สาวจางจื่ออี้ ก็ไม่ทำให้คนดูผิดหวังอีกเช่นเคย แสดงดี สุดปัง ดูแล้วอิน ดูแล้วสนุก ซึ่งเรื่องนี้ต้องเล่นเป็นสาววัย 15 จนถึงวัยหลักสี่ ก็มีหลายเสียงที่ดูแล้วขัดใจกับบทวัยละอ่อน แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่แย่ เธอก็แสดงดีอยู่ เพียงแต่จะให้ดูเป็นเด็กวัยนั้นเดะ ๆ เลยมันคงจะไม่ได้ เพราะตอนที่แสดงเรื่องนี้เธอก็อายุ 38 เข้าไปแล้ว แต่ถึงวัยจะเข้าใกล้หลักสี่ ความสวยก็ยังไม่สร่าง เคมีกับโจวอี้เหวย ที่รับบทเป็นแม่ทัพหนุ่ม เก่งการรบ และฉลาดทันคน มุ่งมั่นทำเพื่อบ้านเมืองและประชาชน เคมีดี ดูแล้วฟิน อมยิ้มกับความละมุน อบอุ่นของท่านแม่ทัพ ชอบความสุขุม นิ่ง รักมั่นคงของเซียวฉี โจวอี้เหวยถ่ายทอดบทนี้ออกมาได้ดี สมบทบาท หุ่นพี่ท่านก็สมกับเป็นนักรบจริง ๆ ค่ะ
3. นักแสดงสมทบคับคั่ง ล้วนรุ่นเดอะ ฝีมือดี
The Rebel Princess เป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่มีตัวละครเยอะมากทั้ง ฮ่องเต้ ไทเฮา ฮองเฮา องค์รัชทายาท พระชายา พระสนม ศัตรูจากต่างแคว้น แต่ละตัวก็จะมีทั้งช่วงเวลาที่เป็นคนดีและช่วงเวลาที่เป็นคนร้าย ซึ่งนักแสดงที่มารับบทแต่ละคนก็รุ่นเดอะ มากไปด้วยประสบการณ์ ส่งผลให้ซีรีส์เรื่องนี้สนุกน่าติดตาม อย่างไม่ต้องสงสัย ก็จะขอยกตัวอย่างนักแสดงสมทบรุ่นเดอะมากฝีมือมาเป็นน้ำจิ้ม เบาะ ๆ 3 คนตามนี้เลยค่ะ
อวี๋เหอเหว่ย นักแสดงมากฝีมือเจ้าของรางวัลนักแสดงสมทบจากงาน Chinese Film Golden Rooster Award ครั้งที่ 31 จากภาพยนตร์ตลกเรื่อง I Am Not Madame Bovary ในซีรีส์ The Rebel Princess เขารับบทเป็นหวังลิ่น ท่านพ่อขององค์หญิงซ่างหยาง เสนาบดีผู้มีอำนาจมากในพระราชวัง จอมวางแผน คิดถึงผลประโยชน์ของตระกูลเป็นสำคัญเจี่ยอี้ผิง นักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง ที่เรื่องนี้รับบท หวังซู่ เป็นพี่ชายขององค์หญิง ถึงจะเป็นคุณชายใหญ่ในตระกูลหวังแต่ก็ไม่สนใจการบ้านการเมือง เที่ยวเล่นไปวัน ๆ ต้องรอให้เผชิญกับวิกฤตในชีวิตถึงจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนมีบทบาทสำคัญในการปกป้องบ้านเมือง
4. โปรดักชั่นสุดปัง อลังคับฟ้า
เสื้อผ้าหน้าผม งานละเอียดทุกชิ้น ดูได้จากคอสตูมขององค์หญิงแต่ละชุด สวย ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะชุดรับปิ่น ชุดแต่งงาน ชุดชนเผ่า ชุดขี่ม้า และชุดอื่น ๆ อีกมากมาย งดงามละเอียดละออ ดูทุ่มทุนสร้าง ไม่ใช่แค่องค์หญิงเท่านั้นแต่ตัวละครทุกตัว เสื้อผ้าหน้าผมงดงาม มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกับซีรีส์จีนย้อนยุคเรื่องอื่นที่เคยดูมา ปังมากค่ะ
ภาพ แสง สี เสียงงานดี งานคุณภาพ ทั้งในพระราชวัง ท้องพระโรง บ้านตระกูลหวัง สนามรบ ชนเผ่า ฯลฯ ทุกซีนสมกับเป็นซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์ ดูแล้วไม่ผิดหวัง
5. OST เพราะทุกเพลง ผลงานของนักร้องคุณภาพ
เพลงประกอบซีรีส์ส่วนประกอบเล็ก ๆ ที่เพิ่มอรรถรสการรับชมได้อย่างไม่น่าเชื่อ OST ของซีรีส์ The Rebel Princess เองก็เช่นกัน มีทั้งหมด 9 เพลง แต่ที่ชอบมากที่สุดเป็นเพลงตอนจบซีรีส์กับเพลง End of the Wolrd (天涯尽处) ที่ขับร้องโดยโจวเซิน (Zhou Shen) นักร้องชายเสียงหวาน และ หูเชีย (Hu xia) นักร้องผู้ชนะรายการ One Million Star ครั้งที่ 6 เสียงร้องเพราะทั้งสองคน เนื้อหาก็ดี เนื้อหาเพลงน่าจะประมาณว่า การได้ใช้เวลากับเธอ เพราะเธอเข้ามาอยู่ในชีวิตทำให้ชีวิตฉันดีขึ้น เมื่อสงครามจบลง ฉันรู้ว่าที่สุดขอบโลกมีบ้านรอฉันอยู่ เพื่อให้ฉันได้ใช้เวลากับเธอในทุก ๆ ฤดู 💗 โอ้ว! นอกจากเสียงร้องเพราะ ๆ ของโจวเซินและหูเซียแล้ว เนื้อเพลงยังหวานได้โล่ห์ไปอีก 💗
เรียกว่าเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่โปรดักชั่นอลังการดาวล้านดวงมาก ๆ ค่ะ ทั้งนักแสดง เสื้อผ้าหน้าผม ภาพแสงสีเสียง ทุกอย่างคัดเน้นเลือกเฟ้นคุณภาพมาทั้งนั้น ใครชอบแนวการเมือง ชิงไหวชิงพริบ ที่ไม่ได้มีตัวร้ายแค่คนเดียว แต่ต้องทำเป็นกระบวนการ นางเอกต้องเป็นตัวกลางคอยแบ่งรับแบ่งสู้ ฝ่าฟันให้ทุกอย่างสมดุลโดยมีพระเอกเป็นคนคอยสนับสนุนก็แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ รับรองสนุก สามารถรับชม The Rebel Princess ซ่างหยาง ลำนำหงส์ลิขิตบัลลังก์ ได้ทางTrueID มีพากย์ไทยด้วยนะคะ